Thursday, July 16, 2015

คำอธิบายขั้นตอนการแปลงเลขฐาน
การแปลงเลขฐาน 8 10 16 เป็นฐาน 2  
   การแปลงเลขฐาน 8 เป็นฐาน 2  
    ค่าประจำหลักในเลขฐาน 8 จะมี 7 6 5 4 3 2 1 0  
วิธีการคิด
  • นำเลขฐาน 8 มาแปลงเป็นเลขฐาน 2 โดยการแยกหาที่ละตัว เริ่มจากตัวแรกก่อน
  • เลขฐาน 8 หนึ่งตัวจะมีค่าเท่ากับเลขฐาน 2 อยู่ 3 บิต คือ 22, 21, 20
  • จากตัวอย่าง 5 แปลงเป็นเลข ฐาน 2 ก็จะได้ 101
  • แนวการหาว่า 5 มาจากไหน เลขฐาน 8 หนึ่งตัวจะมีค่าเท่ากับเลขฐาน 2 อยู่ 3 บิต
  • บิต 3 คือ 22 = 4, บิต 2 คือ 21 = 2 , บิต 1 คือ 20 = 1
  • หมายเหตุ ถ้าลบได้คือผลที่ได้ไม่ติดลบ ให้ได้ 1 ถ้าติดลบให้ได้ 0 และนำผลก่อนหน้าที่จะติดลบข้ามไปลบบิตต่อไป
  • นำ 5 มาลบ กับ บิต 3 คือ 5 - 4 = ได้ 1
  • นำ 1 มาลบ กับ บิต 2 คือ 1 - 2 = -1 ผลที่ได้ติดลบ ได้ 0
  • นำ 1 มาลบ กับ บิต 1 คือ 1- 1 = 0  ได้ 1
  • ผลที่ได้คือ 58 เท่ากัน 1012 โดยการเรียงผลที่ได้จากบิต 1,2,3
    การแปลงลเขฐาน 10 เป็นฐาน 2  
    ค่าประจำหลักในเลขฐาน 10 จะมี 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0
วิธีการคิด
  • นำเลขฐาน 10 มาหาร จากตัวอย่างคือเลข 592
  • นำเลข 592 มาหารด้วย 2 โดยใช้วิธีการหารยาวไปเรื่อยๆ
  • นำเศษแต่ละครั้งที่ได้จะมีเลข 1 กับ 0
  • นำมาเรียงเริมจากตัวล่างสุดจากตัวอย่างคือ 10010100002
  • ผลลัพธ์ที่ได้เลข 10010100002
   การแปลงลเขฐาน 16 เป็นฐาน 2  
    ค่าประจำหลักในเลขฐาน 16 จะมี F E D C B  A 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0  
วิธีการคิด (จะเหมือนการคิดเลขฐาน 8)
  • นำเลขฐาน 16 มาแปลงเป็นเลขฐาน 2 โดยการแยกหาที่ละตัว เริ่มจากตัวแรกก่อน
  • เลขฐาน 16 หนึ่งตัวจะมีค่าเท่ากับเลขฐาน 2 อยู่ 4 บิต คือ  23,22, 21, 20
  • จากตัวอย่าง A แปลงเป็นเลข ฐาน 2 ก็จะได้ 1010
  • แนวการหาว่า A มาจากไหน เลขฐาน 16 หนึ่งตัวจะมีค่าเท่ากับเลขฐาน 2 อยู่ 4 บิต
  • บิต 4 คือ 23=8 ,บิต 3 คือ 22 = 4, บิต 2 คือ 21 = 2 , บิต 1 คือ 20 = 1
  • หมายเหตุ ถ้าลบได้คือผลที่ได้ไม่ติดลบ ให้ได้ 1 ถ้าติดลบให้ได้ 0 และนำผลก่อนหน้าที่จะติดลบข้ามไปลบบิตต่อไป
  • นำ A มาลบ กับ บิต 4 คือ 10 - 8 = ได้ 1      หมายเหตุ A คือ 10
  • นำ 1 มาลบ กับ บิต 3 คือ 2 - 4 = -2 ผลที่ได้ติดลบ ได้ 0
  • นำ 2 มาลบ กับ บิต 2 คือ 2 - 2= 0  ได้ 1
  • นำ 0 มาลบ กับ บิต 1 คือ 0 - 1 = -1 ผลที่ได้ติดลบ ได้ 0
  • ผลที่ได้คือ A16 เท่ากัน 10102 โดยการเรียงผลที่ได้จากบิต 1,2,3,4
__________________________________________________________________
การแปลงเลขฐาน 2 เป็นเลขฐาน 8 10 16  
   การแปลงเลขฐาน 2 เป็นฐาน 8  
    ค่าประจำหลักในเลขฐาน 8 จะมี 7 6 5 4 3 2 1 0  
วิธีการคิด
  • เลขฐาน 8 หนึ่งตัวจะมีค่าเท่ากับเลขฐาน 2 อยู่ 3 บิต
  • วิธีการหาคือ 11011011 แบ่งออกเป็น 3 บิต คือ 011/010/110 *หมายเหตุ ถ้าแบ่งและตัวที่อยู่หน้าสุดเหลือ 1 หรือ 2 บิต ให้เพิ่ม 0 ใส่จนครบ 3 บิต
  • บิต 3 คือ 22 = 4, บิต 2 คือ 21 = 2 , บิต 1 คือ 20 = 1
  • ตัวอย่างวิธีการหา 110 = 6
  • นำตัวที่ 1 ของชุด คูณ บิต 3 คือ 1 x 4 = 4
  • นำตัวที่ 2 ของชุด คูณ บิต 2 คือ 1 x 2 = 2
  • นำตัวที่ 3 ของชุด คูณ บิต 1 คือ 0 x 1 = 0
  • นำผลที่ได้มารวมกันคือ 4 + 2 + 0 = 6
  • ผลที่ได้คือ 68
การแปลงเลขฐาน 2 เป็นฐาน 10
 ค่าประจำหลักในเลขฐาน 10 จะมี 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0  

ตัวอย่าง
      เลขฐาน 2 คือ 11001

                1 x 20 = 1

                0 x 21 = 0

                0x 22  = 0

                1 x 23 = 8

                1 x 24 = 16

   นำ 1 + 0 + 0 + 8 + 16 = 25

   110012 = 2510


วิธีการคิด
  • นำเลขฐาน 2 จากตัวอย่างคือ 11001
  • *หมายเหตุ 110012 นับจากหลังมาหน้า
  • นำเลขฐาน 2 ตัวที่ 1 คือ 1 คูณกับ บิต 1 ของฐาน  2 คือ 1 x 20 = 1
  • นำเลขฐาน 2 ตัวที่ 2 คือ 0 คูณกับ บิต 2 ของฐาน  2 คือ  0 x 21 = 0
  • นำเลขฐาน 2 ตัวที่ 3 คือ 0 คูณกับ บิต 3 ของฐาน  2 คือ  0x 22  = 0
  • นำเลขฐาน 2 ตัวที่ 4 คือ 1 คูณกับ บิต 4 ของฐาน  2 คือ 1 x 23 = 8
  • นำเลขฐาน 2 ตัวที่ 5 คือ 1 คูณกับ บิต 5 ของฐาน  2 คือ 1 x 24 = 16
  • นำผลที่ได้มาบวกกัน ก็จะได้เลขฐาน 10 คือ 25
  การแปลงเลขฐาน 2 เป็นฐาน 16  
    ค่าประจำหลักในเลขฐาน 16 จะมี F E D C B  A 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0
 
วิธีการคิด
  • เลขฐาน 16 หนึ่งตัวจะมีค่าเท่ากับเลขฐาน 2 อยู่ 4 บิต
  • วิธีการหาคือ 11011011100 แบ่งออกเป็น 3 บิต คือ 0110/1101/1100*หมายเหตุ ถ้าแบ่งและตัวที่อยู่หน้าสุดเหลือ 1,2 หรือ 3 บิต ให้เพิ่ม 0 ใส่จนครบ 4 บิต
  • บิต 4 คือ 23 = 8, บิต 3 คือ 22 = 4 , บิต 2 คือ 21 = 2, บิต 1 คือ 20 = 1
  • ตัวอย่างวิธีการหา 1100 = C
  • นำตัวที่ 1 ของชุด คูณ บิต 4 คือ 1 x 8 = 8
  • นำตัวที่ 2 ของชุด คูณ บิต 3 คือ 1 x 4 = 4
  • นำตัวที่ 3 ของชุด คูณ บิต 2 คือ 0 x 2 = 0
  • นำตัวที่ 4 ของชุด คูณ บิต 1 คือ 0 x 1 = 0
  • นำผลที่ได้มารวมกันคือ 8 + 4 + 0 + 0 = C
  • ผลที่ได้คือ C16
___________________________________________________________________
การแปลงเลขฐาน 10 เป็นเลขฐาน 8 16  
  การแปลงเลขฐาน 10 เป็นฐาน 8  
วิธีการคิด
  • นำเลขฐาน 10 มาหาร จากตัวอย่างคือเลข 986
  • นำเลข 592 มาหารด้วย 8 โดยใช้วิธีการหารยาวไปเรื่อยๆ
  • นำเศษแต่ละครั้งที่ได้จะมีเลข 7 ถึง 0
  • นำมาเรียงเริมจากตัวล่างสุดจากตัวอย่างคือ 1732
  • ผลลัพธ์ที่ได้เลข 17328
  การแปลงเลขฐาน 10 เป็นฐาน 16  
    ค่าประจำหลักในเลขฐาน 16 จะมี F E D C B  A 9 8 7 6 5 4 3 2 1 0  
วิธีการคิด
  • นำเลขฐาน 10 มาหาร จากตัวอย่างคือเลข 598
  • นำเลข 598 มาหารด้วย 16 โดยใช้วิธีการหารยาวไปเรื่อยๆ
  • นำเศษแต่ละครั้งที่ได้จะมีเลข F(15) ถึง 0
  • นำมาเรียงเริมจากตัวล่างสุดจากตัวอย่างคือ 256
  • ผลลัพธ์ที่ได้เลข 25616

0 comments:

Post a Comment

Subscribe to RSS Feed Follow me on Twitter!